โรคพุ่มแจ้
วันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม 2564
128
ต้นมันสำปะหลังมีลักษณะแตกยอดเล็กๆ ยอดแคระแกรน มีการแตกตาข้างมาก ก้านใบสั้นเป็นกระจุก ใบเล็กลงสีเหลือง และมีใบแห้งติดกิ่งหรือร่วงหล่น หรือต้นมันสำปะหลังแคระแกรนอาการคล้ายถูกเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังทำลายให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือสำนักงานเกษตรจังหวัด เพื่อเตรียมการ หาแนวทางป้องกันกำจัดก่อนเกิดการระบาดรุนแรง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตมันสำปะหลังได้ เชื้อสาเหตุ : เชื้อไฟโตพลาสมา ลักษณะอาการ ลักษณะอาการคล้ายกับการทำลายของเพลี้ยแป้ง โดยเชื้อไฟโตพลาสมาทำให้ท่อลำเลียงอาหารอุดตัน ส่วนยอดแคระแกรน มีการแตกตาข้างมาก ยอดเป็นพุ่ม ใบเล็กลงสีเหลืองซีด และมีใบแห้งติดกิ่งหรือร่วงหล่น ใบที่เป็นโรคจะเริ่มแห้งตายจากใบล่างขึ้นไปถึงที่ปลายยอด ต่อมากิ่งก้านจะแห้งตายจากยอด (Die back) ลำต้น แคระแกรน ท่ออาหารใต้เปลือกลำต้นหรือหัวเปลี่ยนเป็นเส้นสีน้ำตาลดำหากระบาดรุนแรงมันสำปะหลังจะยืนต้นตาย ผลผลิตลดลงถึง ๙๐ เปอร์เซ็นต์ การแพร่ระบาด แพร่กระจายผ่านทางท่อนพันธุ์เป็นส่วนใหญ่ และมีเพลี้ยจักจั่นเป็นพาหะนำโรคมาสู่ต้นมันสำปะหลัง กรมส่งเสริมการเกษตร แนะนำวิธีการป้องกันกำจัด ดังนี้ ๑. สำรวจแปลงมันสำปะหลังอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ๒. ใช้พันธุ์ที่ปลอดโรค หรือจากต้นพันธุ์มันสำปะหลังที่ไม่แสดงอาการของโรค ๓. ขุดหรือถอนต้นที่เป็นโรคไปเผาทำลายนอกแปลง ๔. ปลูกพืชหมุนเวียนเพื่อป้องกันกำจัดเชื้อโรคจากต้นมันสำปะหลังที่เป็นโรคตกค้างอยู่ในแปลง ๕. หลีกเลี่ยงการขนย้ายท่อนพันธุ์จากแหล่งที่มีโรคไปสู่แหล่งที่ยังไม่เคยมีการระบาด ๖. กำจัดวัชพืชที่แหล่งพักเชื้อ หรือเป็นที่อาศัยของแมลงพาหะนำโรคในแปลง เช่น ต้นสาบม่วง ๗. กำจัดแมลงพาหะนำโรค เช่น เพลี้ยจักจั่น
แหล่งที่มา https://www.doae.go.th/upload/files/Cassava_witches%20broom_060661.pdf